當前位置

首頁 > 語言學習 > 泰語學習 > 泰語大講堂:爲什麼“老鼠หนู”會變成泰語中的人稱代詞?

泰語大講堂:爲什麼“老鼠หนู”會變成泰語中的人稱代詞?

推薦人: 來源: 閱讀: 2.21W 次

泰語裏的人稱代詞多到數不清,要想使用正確的人稱代詞需要考慮很多方面的因素,性別、年齡、社會地位等等因素都需要考慮。那大家知道หนู這歌人稱代詞什麼時候用嗎?泰國人爲什麼又會用老鼠來自稱呢?今天,我們就來好好認識一下這個有點奇怪的人稱代詞。

泰語大講堂:爲什麼“老鼠หนู”會變成泰語中的人稱代詞?

คำสรรพนามในภาษาไทยมีมากมายสารพัด ไม่ว่าจะเป็น ข้า เอ็ง เรา ฉัน ท่าน เธอ คุณ ผม กู มึง ฯลฯ แต่มีคำหนึ่งคือคำว่า “หนู” ที่ดูผิดแผกจากคำอื่น เพราะเหมือนเป็นการนำชื่อของสัตว์มาใช้เป็นคำสรรพนาม หรือสรรพนามคำว่า “หนู” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ “หนู” ที่เป็นสัตว์?
泰語裏的人稱代詞數量衆多,例如ข้า เอ็ง เรา ฉัน ท่าน เธอ คุณ ผม กู มึง等等,但是有一個詞看起來和其他詞都不一樣,那就是หนู這個詞,因爲感覺這是一個用動物名稱來用作 人稱代詞的用法,又或者หนู本身和動物的含義並沒有關係呢?

คำว่า “หนู” ใช้ได้กับทั้งผู้ชายและผู้หญิง ใช้เรียกแทนตนเอง หรือใช้เรียกคนที่อายุน้อยกว่า มีทั้งคำว่า เจ้าหนู, ตาหนู, ไอ้หนู, พ่อหนู, แม่หนู ฯลฯ เมื่อสืบหาต้นเค้าที่มาของคำนี้ พบในบทความ “จากอีหนูถึงอำแดง” (ศิลปวัฒนธรรม ฉบับธันวาคม 2541) อาจารย์สมบัติ (ส. พลายน้อย) เขียนอธิบายที่มาของคำว่า “หนู” เอาไว้ว่า
หนู這個詞男性和女性都可以用來充當第一人稱代詞,或者用來稱呼比自己年紀小的人,如เจ้าหนู, ตาหนู, ไอ้หนู, พ่อหนู, แม่หนู等等,當搜尋這個詞的源頭時,在Sombat老 師的《從Inu到Idaeng》(文化藝術1998年12月版)一文中解釋了หนู的來源:

“มีผู้สงสัยว่า คำนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร สมัยไหน เท่าที่ทราบเป็นคำที่ใช้ในสมัยรัชกาลที่ 4 ภายหลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริว่า คำ ‘หนู’ เป็นศัพท์ที่เพี้ยนมาจากภาษาจีนว่า ‘อินู’ ไม่ควรจะนำมาใช้เรียกเด็กไทย ทำให้นึกสงสัยว่าถ้าเป็นตามนี้ คำที่เคยเรียกว่า ‘อีหนู’ จะมาจากคำ ‘อินู’ หรือย่างไร…”
“有人疑惑,這個詞是在什麼年代怎麼產生的?據我所知這個詞是拉瑪四世時期,國王下御昭,說明หนู一次來自漢語裏的อินู,不應該用來指代泰國兒童,那麼如果是這樣 的話,曾經使用過的อีหนู是來自อินู還是怎樣呢?”

พระราชวินิจฉัยของรัชกาลที่ 6 เกี่ยวกับที่มาของคำว่า “หนู” พบใน ประกาศ ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยคำนำนามเด็ก พ.ศ. 2464 ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 38 หน้า 439-441 ความตอนหนึ่งระบุว่า “ทรงพระราชดำริห์ว่า คำว่า ‘หนู’ เปนศัพท์ที่เพี้ยนมาจากภาษาจีนว่า ‘อินู’ ไม่สมควรใช้สำหรับเปนคำนามเด็กที่เปนเชื้อชาติสยามแท้ จึงได้ทรงยกเลิกเสีย ให้คงใช้คำว่า ‘เด็ก’ ซึ่งเปนคำไทยแท้นั้นแต่คำเดียว…”
拉瑪六世和หนู來源相關的資料在皇家公報第38本439-441頁中關於“1921年取消兒童稱呼詞皇家法令”中有一段提到:“國王下令,หนู是中文詞彙อินู的音變,不應該用來指 代純種暹羅血統的兒童,所以應該取消使用,只保留泰語詞彙เด็ก一詞…”

หากยึดตามพระราชวินิจฉัยของรัชกาลที่ 6 ว่าคำสรรพนาม “หนู” มาจากภาษาจีนจริง แล้วจะเป็นคำใด? ผู้เขียนพยายามหาต้นเค้าของคำว่า “อินู” แต่ไม่พบ อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามจากผู้สันทัดภาษาจีน ก็เจอภาษาจีนคำหนึ่ง คือคำว่า 奴 nú (หนู) ที่แปลว่า ทาส และนี่อาจเป็นต้นเค้าของคำสรรพนาม “หนู” !!!
如果根據拉瑪六世時期的御昭,หนู這個人稱代詞是來自中文的,那又會是那個詞呢?我努力尋找อินู這個詞的來源但是沒有找到。無論如何,當詢問精通中文的人時,就發現了 奴這個詞,翻譯成奴隸,這個詞可能就是หนู這個人稱代詞的原型。

เปิดพจนานุกรมจีน-ไทย ฉบับของเธียรชัย เอี่ยมวรเมธ ให้ความหมายของคำว่า 奴 nú ไว้ว่า 1. ทาส, ชาวนาทาส, เลก 2. เป็นคำที่หญิงสาวใช้เรียกตนเอง (ส่วนมากจะปรากฏในหนังสือไป่หว้าในสมัยก่อน) 3. ใช้เป็นทาส, กดขี่เป็นทาส
翻開 Thianchai Iamworamet版的漢泰詞典,發現了奴一詞的釋義:1.奴隸,農奴;2.女性自稱的詞彙(出現在古書當中);3.用作奴隸,壓迫使其成爲奴隸。

ในพจนานุกรมยังมีคำในหมวด 奴 nú อีกหลายคำ เช่นคำว่า 奴才 nú cái ที่แปลว่า 1. ทาสในบ้าน 2. ข้าผู้เป็นทาส และขยายความเพิ่มเติมว่าเป็นคำที่ขุนนางใช้เรียกตนเองเมื่อกล่าวกับจักรรพรรดิในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง หรือคำที่ทาสในบ้านของชาวแมนจูในสมัยราชวงศ์ชิงใช้เรียกตนเองเมื่อกล่าวกับผู้เป็นนาย
字典中還有很 多個和奴相關的詞,如奴才,意思是1.家中的奴隸;2.作爲奴隸的我,在明清時期與皇帝交談時的自稱,或者清朝時期滿族人家中奴才的自稱。

เมื่อลองเปิดดูซีรีส์ย้อนยุคของจีน ก็จะพบคำว่า 奴婢 nú bì ซึ่งก็เป็นคำที่ผู้น้อยใช้เรียกตนเองเมื่อสนทนากับผู้ที่มีศักดิ์สูงกว่า เพื่อแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน
當觀看中 國古裝劇時,可以看到奴婢一詞,是處在較低社會地位的人與較高社會地位的人交談時表現謙虛謙卑的自我稱呼詞語。

น่าสังเกตว่าคำว่า 奴 nú มีอักษร 女 nǚ หนวฺี่ ที่แปลว่า เพศหญิง, ผู้หญิง รวมอยู่ด้วย
值得 注意的是奴這個詞有女字旁,意思是女性。

ในที่นี้ขอติดคำว่า 孥 nú จากพจนานุกรมฉบับดังกล่าวไว้อีกคำหนึ่ง ที่แปลว่า ลูก, ลูกสาว, ลูกชาย ซึ่งคำนี้มาจากคำว่า 奴 nú ที่แปลว่า ทาส รวมกับคำว่า 子 zi ที่แปลว่า เด็ก
這裏 再介紹另一個字,孥,意思是孩子,女兒,兒子,這個詞來自翻譯成奴隸的奴和翻譯成孩子的子共同構成。

ดังนั้น คำสรรพนาม “หนู” จึงอาจจะมีต้นเค้ามาจากคำในภาษาจีน แต่จะเป็นคำใดระหว่าง 奴 หรือ 孥 ก็ไม่อาจทราบได้ เพราะทั้งสองต่างออกเสียง nú (หนู) เช่นเดียวกัน และก็มีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองคำจะเป็นต้นเค้าของคำสรรพนาม “หนู”
因此,หนู 這個人稱代詞可能真的是源於中文,但是到底是“奴”還是“ 孥”就無從查證了因爲這兩個詞都讀作nú,都有可能是หนู一詞的源頭。

ผู้เขียนจึงอนุมานได้เป็น 2 แนวทาง คือ 1. อาจเป็นในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3-4 (หรือเก่ากว่านั้น) คนจีนในสยามเรียกลูกเล็กเด็กแดงว่า 孥 nú (“อีหนู ๆ”) คนไทยก็พลอยใช้คำนี้ตาม 2. คนจีนในสมัยนั้นใช้คำว่า 奴, 奴才 หรือ 奴才 (หรือคำในหมวด 奴 nú (หนู) อื่น ๆ) เรียกแทนตนเองเพื่อแสดงความอ่อนน้อม เมื่อสนทนากับคนไทยหรือคนจีนด้วยกันเอง ในฐานะที่ตนเป็นคนต่ำศักดิ์กว่า คนไทย (ซึ่งอาจเข้าใจคลาดเคลื่อน) ก็พลอยใช้คำนี้ตาม
我於是預測出兩種理解,1.可能是拉瑪三-四世(可能早於此),華人餃子機的孩子爲“孥”,泰國人也就跟着使用這個詞;2.當時的華人使用奴, 奴才這類的詞彙 來自稱,當和泰國人或者華人交談時表達謙虛之意(可能產生了誤解),泰國人也就跟着使用了這個詞。

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นของผู้เขียนจากข้อมูลเท่าที่สืบค้นได้เท่านั้น หากท่านผู้อ่านเชื่อว่า สรรพนาม “หนู” มีต้นเค้ามาจากคำในภาษาจีนจริง ดังพระราชวินิจฉัยของรัชกาลที่ 6 (ตามที่อาจารย์สมบัติยกมา) โปรดช่วยชี้แนะ เพราะผู้เขียนไม่สันทันด้านภาษาเท่าใดนัก หรือแท้จริงแล้ว คำว่า “หนู” ก็อาจเป็นคำไทยทั่วไป หาใช่คำจีนไม่ ก็เหมือนการนำชื่อของสัตว์มาใช้เป็นคำสรรพนาม เช่นคำว่า “หมู” “หมา”
上述所有的內容都只是作者本人蒐集到的材料,如果其他人認爲หนู確實是像拉瑪六世御昭中提到的來自中文,請做指明,因爲作者本身並不精通任何外語。又或是這個詞根本就是完完全全的泰語詞彙,並不是來自中文,就僅僅是用動物來稱呼自身而已,像“หมู” “หมา”一樣。

 

不知道大家認不認同作者的觀點呢?

 

聲明:本文由滬江泰語編譯整理,素材來自silpa-mag,未經允許不得轉載。如有不妥,敬請指正。