當前位置

首頁 > 語言學習 > 泰語學習 > 經常搬家對孩子的影響究竟有多大

經常搬家對孩子的影響究竟有多大

推薦人: 來源: 閱讀: 1.59W 次

有很多家庭因爲工作需要經常搬家,但往往忽略了孩子所將面臨的壓力和問題,導致小孩的心理健康受到影響,影響其一生......

經常搬家對孩子的影響究竟有多大

หากพูดถึงความเครียดในเด็ก ส่วนใหญ่แล้วผู้ใหญ่จะไม่ค่อยสนใจว่ามันเป็นปัญหาที่จำเป็นต้องพูดคุยกันจริง ๆ จัง ๆ อันที่จริงพ่อแม่ผู้ปกครองหลาย ๆ คนไม่ได้ตระหนักด้วยซ้ำว่าเด็ก ๆ ก็มีความเครียดได้เหมือนกัน เพราะพวกเขาเองก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งในสังคม ที่วัน ๆ ต้องเจอกับเรื่องต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อจิตใจไม่มากก็น้อย ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจจะไม่ได้มากหรือเลวร้ายรุนแรงเท่ากับคนวัยผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย จุดนี้ผู้ใหญ่ต้องรู้ว่าเด็กเองก็มีความเครียดได้ไม่ต่างจากผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ไม่ใช่มองว่าเป็นแค่เด็กจะมามีเรื่องเครียดอะไร อย่าเพิ่งคิดว่าพวกเขาเครียดไม่เป็น

談到孩子的壓力,大人們往往會忽略它是一個真正需要討論的問題。事實上,許多父母甚至沒有意識到孩子也會有壓力,但他們也是社會的一份子,每天多少都會受到影響。當然,它可能沒有成年人那麼糟糕或那麼嚴重,但不代表沒有影響。在這一點上,大人要知道,孩子和大人一樣有壓力,不要想當然的認爲只是小孩子,不會有壓力。
ความเครียดในเด็กเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย โดยหนึ่งในนั้นที่พ่อแม่ผู้ปกครองมักจะคาดไม่ถึงคือการย้ายที่อยู่บ่อย ๆ อันเนื่องมาจากความจำเป็น เพราะหลายครอบครัวพ่อแม่เป็นข้าราชการหรือทำงานอื่น ๆ ที่ต้องเปลี่ยนหรือย้ายบ้านบ่อย ๆ อยู่ไม่ค่อยติดที่ อยู่ได้ไม่กี่ปีก็ต้องย้ายอีกแล้ว เมื่อย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นที่ไกลออกไป ก็ต้องย้ายโรงเรียนด้วย เด็กหลายคนกว่าจะเรียนจบเปลี่ยนโรงเรียนใหม่แทบทุกปี การเปลี่ยนที่อยู่บ่อย ๆ แบบนี้ก็มีผลต่อความเครียดของเด็กเช่นเดียวกัน

孩子的壓力可能是由多種因素引起的,其中一個連父母都想不到的因素便是父母經常因需要而頻繁搬家。由於很多家庭的父母是公務員或從事其他工作經常要變更工作地點或搬家,由於迫不得已,往往在一個地方待不上幾年就不得不再次搬家。搬得較遠時,學校也必須換。很多孩子在完成學業之前,幾乎每年都要換一個新的學校,而這種頻繁的搬家也給孩子造成了壓力。

經常搬家對孩子的影響究竟有多大 第2張

บางทีพ่อแม่อาจต้องสังเกตเด็ก ๆ หน่อยว่ามีความผิดปกติอะไรบ้างหรือไม่ และควรมีวิธีรับมือให้พร้อม ในเมื่อการย้ายบ้านหรือเปลี่ยนที่อยู่เป็นเรื่องจำเป็นที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ก็ต้องไม่ลืมถามไถ่สุขภาพจิตของเด็ก ๆ ด้วยว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง พอใจกับที่ใหม่มากแค่ไหน ไม่สบายใจตรงไหนหรือเปล่า ภายนอกเด็กอาจดูสนุก ตื่นเต้น ท้าทายที่ได้รู้จักใครมากมาย แต่ลึก ๆ แล้วพวกเขาไม่มีเวลามากพอจะสนิทกับใครเลยสักคน

父母有時可能需要看看孩子有沒有異常,以及應對措施,當搬家不可避免時,不要忘了關心孩子的心理健康。問問他們到新地方絕對的怎麼樣,對新地方滿不滿意,有沒有哪不舒服,孩子們外表可能看起來很開心,很激動,敢於去認識很多人,但在內心深處,他們沒有太多時間去親近任何人。

การปรับตัวต้องใช้เวลา

自我調節需要時間
ขนาดผู้ใหญ่ยังต้องใช้เวลาปรับตัวเวลาที่ต้องเข้าไปอยู่ในสังคมใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ ทำความรู้จักคนใหม่ ๆ เด็กก็เช่นกัน พวกเขาต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่ข้อจำกัดของเด็กจะแตกต่างจากผู้ใหญ่ตรงที่เด็กไม่ได้มีทักษะในการเข้าสังคมมากเท่าผู้ใหญ่ อาจเป็นเรื่องยากที่จะเข้าหาเพื่อนใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เพราะเด็กที่ย้ายมาใหม่หลายคนมีความกลัว เขินอาย รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างตนเองกับเพื่อนคนอื่น ๆ ที่รู้จักกันมานานแล้ว เด็กจะขาดความมั่นใจที่จะเข้าหาเพื่อนคนอื่นที่เขาอยู่กันเป็นกลุ่มอยู่แล้ว กลัวว่าเพื่อนจะไม่ต้อนรับ กลัวโดนปฏิเสธ กลัวโดนแกล้ง

即使是成年人,在進入一個新的環境時,也需要時間去適應,結識新的朋友,孩子也一樣,也需要時間來適應。但與成年人不同的是,兒童的社交能力不如成年人,而且很難很快結交新朋友。因爲很多新來的孩子害怕、害羞,覺得自己會和以前的老朋友有隔閡。同時會缺乏信心去接近已經有”小團體“的其他朋友,害怕新朋友不會接受他,害怕被拒絕,害怕被欺負。

การเข้าหาเพื่อนใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย

結交新朋友並不容易
นอกจากนี้ เพื่อนซึ่งก็เป็นเด็กวัยเดียวกันก็ไม่ได้ยอมรับเข้ากลุ่มได้ง่ายขนาดนั้นเพราะเด็กไม่ได้รู้จักกัน เด็กหลาย ๆ คนก็ไม่ได้คิดว่าต้องรู้จักเพราะตัวเองก็มีเพื่อนอยู่แล้ว แม้จะมีอยู่บ้างเหมือนกันเด็กที่เห่อเพื่อนใหม่ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะสนิทกันได้ จึงต้องให้เวลาเด็กทำความรู้จักกันก่อน บางทีกว่าเด็กจะเริ่มคุยกันถูกคออาจใช้เวลาเกือบหมดเทอม และพอจะเข้ากันได้ ก็ย้ายโรงเรียนอีกแล้ว เป็นแบบนี้วนไปเรื่อย ๆ กว่าเด็กจะโต มันก็ทำให้เขาลำบากใจอยู่ไม่น้อย กว่าจะสร้างปฏิสัมพันธ์ต่อกันได้ อาจทำให้เด็กขาดมิตรภาพที่แน่นแฟ้น ซึ่งขัดกับวัยเรียนรู้ของเด็ก ๆ

此外,同齡孩子的朋友也不容易被接納,因爲孩子們彼此不認識,很多孩子不認爲他們有必要結交新朋友,因爲他們已經有朋友了。即使有一些孩子熱衷於結交新朋友,但並不代表他們能夠很親近,因此,要先給孩子一些時間去了解彼此,有時可能需要差不多學期結束,孩子們纔開始談得來。而這個時候又開始新的搬家,直到孩子長大,這使他更難與他人互動,可能導致孩子失去親密的友誼,這與孩子的學習年齡相悖。

經常搬家對孩子的影響究竟有多大 第3張

เพื่อนที่โรงเรียนใหม่ไม่ได้ดีเสมอไป

新學校的朋友不總是友善的
ทุกที่มีทั้งเด็กดีและเด็กที่ค่อนข้างเกเร การเจอเพื่อนใหม่ของเด็ก ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเจอกับเพื่อนกลุ่มที่ดีเสมอไป ด้วยความที่มาใหม่ไม่รู้จักใครมาก่อน เจอเพื่อนต้อนรับดีก็ดีไป ถ้าเด็กมีบุคลิกแบบที่เด็กคนอื่นมองว่าน่าแกล้งก็อาจไปเจอเข้ากับวิธีการต้อนรับเพื่อนใหม่ของเด็กที่เกเร ย้ายกี่ที่ก็โดน มีการรังแก กลั่นแกล้ง ความรุนแรงในโรงเรียนล้วนเกิดขึ้นจากเรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่มีเหตุผล ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้สนใจเพราะมองว่าเด็กแค่เล่นกัน และมันก็เป็นไปได้ที่เด็กจะเล่นกันแรงไปหน่อย เพื่อนคนอื่น ๆ ก็ไม่กล้าช่วยเพราะไม่อยากเข้าไปยุ่ง กลัวตัวเองจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย
到處都有好孩子,也有淘氣的孩子,這意味着孩子的新朋友不都是好孩子,因爲孩子作爲新來的人在此之前不認識任何人,結識到好的朋友還好說,如果我們孩子被其他孩子認爲有着容易被欺負的性格,就可能收到一個頑皮的歡迎儀式。不管你搬多少地方,都้會有欺凌,校園暴力都是由小事無故造成的,但大人不在乎,因爲他們看到孩子只是在玩,有可能是孩子們玩得太用力了,其他朋友也不敢幫忙,因爲不想插手,怕自己也有麻煩。
ความเครียดจากการเปลี่ยนแปลง

變化導致的壓力
การเปลี่ยนแปลงมักนำมาด้วยการต้องปรับตัว และอย่างที่บอกว่าทุกการปรับตัวต้องอาศัยเวลาสักระยะถึงจะเริ่มคุ้นชิน คุ้นเคย แต่เมื่อเด็กคนหนึ่งต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ อย่างการย้ายโรงเรียน มีเพื่อนใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่แทบทุกปี พอจะเริ่มชินกับที่นี่ก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่กับสถานที่ใหม่ แม้ว่าในอนาคตมันจะกลายเป็นเป็นภูมิต้านทานในการรับมือความเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น เรียนรู้ที่จะไม่ยึดติดอยู่กับอะไรทั้งนั้น จึงไม่กระตือรือร้นที่จะผูกมิตรกับใคร แต่ในใจก็รู้สึกสับสน ต้องอยู่ให้ได้ เกิดเป็นความเครียดที่ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเพราะไม่สนิทกับใครเลย

變化往往伴隨着適應,正如人們所說,每一次變化都需要一些時間來適應,但是當孩子經歷頻繁的變化時,比如轉學、結交新朋友、環境幾乎每年都是新的,當孩子剛剛習慣了這個地方,又得在新的地方重新開始。雖然以後會變得容易適應,也學會不執着什麼,所以對於交朋友也沒有熱情,但心裏很迷茫,爲了生存而生存。不敢向任何人傾訴壓力,因爲沒有親近的人。
小編作爲常年搬家的小孩之一,對此深有感觸,每次面臨新的學校,新的圈子,真的太難了。慢慢地開始不社交,沉默寡言,養成了”社交恐懼症“。希望父母們能多關心一下小孩的心理健康,多考慮考慮小孩的感受吶。

聲明:本文由滬江泰語編譯整理,素材來自sanook,未經允許不得轉載。如有不妥,敬請指正。